Monday, November 14, 2011

นี่หรือการทดสอบของพระเจ้า? ไม่ได้สร้างให้เขาเป็นผู้ชายปกติ ต้องมาเป็นเกย์ และถูกลงโทษแบบนี้?





สองรัฐในมาเลเซียเล็งออกกฏศาสนาลงโทษเกย์










รัฐปาหัง และ มะละกา ประเทศมาเลเซีย เตรียมออกกฏหมายอิสลามลงโทษคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งกฏหมายของรัฐก็มีบทลงโทษชาวรักร่วมเพศแต่เดิมอยู่แล้ว ผู้นำศาสนากล่าวกลัวพฤติกรรมทางเพศผิดปกติจะกลายเป็นค่านิยม





11 พ.ย. 2011 - สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า รัฐในมาเลเซีย 2 รัฐ วางแผนแก้กฏหมายอิสลามเพื่อลงโทษชาวมุสลิมที่ประพฤติตนไปในทางชู้สาวกับเพศเดียวกัน ทำให้เกย์ชาวมุสลิมจะถูกลงโทษทั้งจากกฏของรัฐและกฏของศาสนา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดความเป็นห่วงในประเด็นเรื่องการยอมรับความหลากหลาย



ในประเทศมาเลเซีย การกระทำรักร่วมเพศจะถูกลงโทษด้วยการโบยตีและถูกสั่งจำคุกมากสุด 20 ปี แต่การแก้ไขกฏหมายในรัฐ ปาหัง และ มะละกา จะยิ่งทำให้รัฐมีอำนาจมากขึ้น และหากกฏหมายประกาศบังคับใช้แล้ว เกย์ชาวมุสลิมจะถูกลงโทษจำคุกเพิ่มจากเดิมโดยคิดรวมจากกฏหมายทั้งของรัฐและกฏหมายอิสลาม



โมห์ อาลี รุสตัม ผู้ว่าการรัฐมะละกา และประธานกล่าวว่า รัฐจะเป็นผู้พิจารณาร่างกฏหมายอิสสามและแก้ไขให้ชาวมุสลิมที่เป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนได้รับการพิจารณาคดีในชั้นศาล และลงโทษโดยการสั่งจำคุกหรือจ่ายค่าปรับเพื่อ "ชำระล้าง" พฤติกรรมรักร่วมเพศ



"มีคนจำนวนมากต้องการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน ไปไกลถึงขั้นอยากอนุญาตให้มีการกระทำในเชิงรักร่วมเพศ" อาลีกล่าว



"ตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว พวกเราไม่สามารถกระทำเช่นนี้ได้ มันขัดต่อกฏของศาสนา" อาลีกล่าว เขาบอกอีกว่าเกย์ชาวมุสลิมควรได้รับคำปรึกษา และควรมีการลงโทษรวมไปถึงคนที่ "สนับสนุน" รักร่วมเพศด้วย



"พวกเราอยากให้มีการออกกฏหมาย เพื่อที่เราจะบังคับใช้ได้และนำตัวพวกเขามาดำเนินคดีในศาลชะรีอะฮฺ แล้วเราก็ลงโทษปรับพวกเขาในฐานะที่สนับสนุนหรือส่งเสริมให้กระทำการละเมิดหมายเช่นนี้" อาลีกล่าว



ในวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ ของมาเลเซียก็รายงานคำกล่าวของผู้นำศาสนารัฐปาหังว่าจะมีการแก้กฏหมายอิสลามเพื่อให้มีการใช้มาตรการต่อต้านรักร่วมเพศ



"อิสลามห้ามไม่ให้มีแนวทางหรือพฤติกรรมทางเพศที่ผิดแปลกจากปกติ" อับดุล ราห์มาน ออสมานกล่าว "ควรมีการดำเนินการที่เหมาะสมต่อปัญหานี้ พวกเรากลัวว่าพฤติกรรมผิดปกติจะเริ่มกลายเป็นค่านิยม"



ในประเทศมาเลเซีย ศาสนาอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของแต่ละรัฐ ซึ่งผู้มีอำนาจในรัฐนั้นๆ สามารถเปลี่ยนแปลงกฏหมายได้โดยไม่จำเป็นต้องให้รัฐบาลกลางรับรอง



เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มผู้จัดเทศกาลส่งเสริมสิทธิทางเพศสภาพในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ต้องยกเลิกการจัดหลังจากที่ตำรวจขู่ว่าจะมีการปราบปรามผู้คนในงานโดยอ้าวว่างานนี้สร้างความไม่สบายใจและทำให้เกิดความวุ่นวายต่อส่วนรวม



ประเทศมาเลเซียมีประชากรเป็นชาวมุสลิมร้อยละ 60 จากทั้งหมด 28 ล้านคน มีการใช้กฏหมายมุสลิมเป็นมาตรการในการควบคุมความประพฤติของศาสนิกชน อย่างไรก็ตามมีชาวมุสลิมจำนวนมากในกัวลาลัมเปอร์ที่มักจะเข้าผับบาร์ที่เสริฟแอลกอฮอล์



การมีสัมพันธ์นอกสมรสไม่ได้รับการยอมรับ ความสัมพันธ์กับเพศเดียวกันมักจะนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ แม้ว่าจะมีช่องสื่อทางเลือกที่เริ่มผุดขึ้นมาทำให้มีความเปิดกว้างมากขึ้นในการถกเถียงกันเรื่องเกี่ยวกับรักร่วมเพศ



แต่การถกเถียงกันเรื่องเพศก็มักจะถูกกีดกันโดยกลุ่มอนุรักษ์นิยม ภาพยนตร์และดนตรีก็ถูกเซนเซอร์อย่างหนักในการนำเนื้อหาโจ่งครึมออกไป ชาวเกย์และคนแต่งกายข้ามเพศบอกว่าพวกตนถูกเลือกปฏิบัติทั้งในทางหน้าที่การงานและสังคม



ที่มา



Malaysian states to punish homosexuality, The Guardian, 11-11-2011
http://www.guardian.co.uk/world/2011/nov/11/malaysian-states-to-punish-homosexuality



http://www.prachatai.com/journal/2011/11/37832

No comments:

Post a Comment