Tuesday, November 29, 2011

นักวิจัยทึ่ง'สมาธิ'เพิ่มคุณภาพสมอง


วิกฤติที่เกิดขึ้นกับคนไทยในเวลานี้ อาจเป็นเรื่องที่ดี หากผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยใช้เป็นโอกาสในการฝึกฝนตนเองให้มี สติ เพื่อก่อให้เกิดปัญญา ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และจะยิ่งจะดีไปกว่านั้น หากจะใช้ ศีล ที่เป็นคำสอนแห่งพระพุทธองค์ มาเป็นหนทางในการดำเนินชีวิต เพื่อสร้าง "ความดี" ให้เกิดขึ้น

การที่คนจะมีศีล สมาธิ และปัญญาเกิดขึ้นได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดั่งการซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนเรียนรู้ให้เท่าทันกิเลส และอารมณ์ที่มากระทบดวงจิตเพื่อไม่ให้ใหลหลง หรือ ขาดสติไปกับสิ่งที่มากระทบ

การสร้างสมาธิจำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนด้วยวิธีการ "ทำสมาธิ" ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำสมาธิ หรือ การเดินจงกรม พระอาจารย์ที่เคยสั่งสอนผมยังได้แนะนำด้วยว่า ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ก็สามารถ "นอนทำสมาธิ" ด้วยการจับลมหายใจเข้า-ออก ระหว่างที่นอนในช่วงก่อนที่จะหลับ

เรื่องการทำสมาธิเป็นศาสตร์ที่ชาวตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ศึกษาศาสนาพุทธ ตามรอยพระตถาคต รู้จักกันดี และผู้ปฏิบัติจะได้มรรคผล แล้วแต่ระดับของการปฏิบัติ

ขณะที่ชาวตะวันตกซึ่งเชื่อมั่นในหลักการทางวิทยาศาสตร์ เชื่อมั่นในสิ่งที่พิสูจน์ได้ ยังให้ความสำคัญกับการทำสมาธิมากขึ้น หลังจากที่พบว่า การนั่งสมาธิช่วยให้อารมณ์สงบ คลายความเครียดจากชีวิตประจำวันที่คร่ำเคร่งกับการทำงานอย่างหนัก เพื่อหารายได้มาจุนเจือชีวิตในสังคมทุนนิยมที่มีการแก่งแย่งกันสูง

ดร.จัดสัน บริวเวอร์ นักวิจัยแห่งภาควิชาประสาทวิทยาบำบัด มหาวิทยาลัยเยล ที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์เป็นอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพการทำงานของสมองผู้ที่ทำสมาธิกับผู้ที่ไม่ได้ทำสมาธิ รวม 23 คน โดยใช้เครื่องมือสร้างภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กในการตรวจสอบการทำงานของสมองกลุ่มตัวอย่าง และพบผลที่น่าทึ่งในกลุ่มผู้ทำสมาธิในขั้นต้น 3 ประการ ได้แก่ การจดจ่อ การทำจิตใจให้โอบอ้อมอารี และการไม่เลือกปฏิบัติ โดยกลุ่มตัวอย่างชาวตะวันตกที่ทำสมาธิมีการทำงานของสมองในส่วนที่เรียกว่า Default mode network (ดีเอ็มเอ็น) ซึ่งเป็นส่วนของสมองที่จะทำงานเมื่อเราเผชิญกับโลกภายนอก มีการทำงานมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ทำสมาธิ

ผลการวิจัยของนักวิจัยกลุ่มอื่นยังชี้ด้วยว่า การทำสมาธิช่วยสร้างเครือข่ายการทำงานของกระแสประสาทในดีเอ็มเอ็นได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อมได้เป็นอย่างดี

นายบริวเวอร์ที่ทำสมาธิมานานกว่า 20 ปี ยังพบด้วยว่า การทำสมาธิช่วยสร้างการรับรู้ เพิ่มสมาธิในการทำงาน และประสิทธิภาพในการจดจำ ทั้งยังลดความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างชะงัด การทำสมาธิเป็นส่วนหนึ่งในคำสอนอันสูงค่าของพระพุทธองค์ ที่ชาวพุทธต่างรับรู้กันเป็นอย่างดี แต่ก็มีผู้ที่นำของขวัญสุดประเสริฐนี้มาใช้ไม่มากนัก หากนำมาใช้ในช่วงวิกฤติเช่นนี้ ก็อาจจะทำให้ "ความเครียด" ที่เกิดจาก "บิ๊กแบ็ก" ลดลงได้มาก..ไม่เชื่อก็ลองดูสิครับ

----------------------

(เวิลด์วาไรตี้ : นักวิจัย ม.เยล ทึ่ง 'สมาธิ' เพิ่มคุณภาพสมอง : โดย...วัจน พรหโมบล)


คมชัดลึก 26 พ.ย. 54

http://www.komchadluek.net/detail/20111126/116093/นักวิจัยทึ่งสมาธิเพิ่มคุณภาพสมอง.html


No comments:

Post a Comment