Wednesday, December 5, 2012

ชี้ก่อการร้ายโลกพุ่ง-แต่ยอดตายลดหลังปี 2550



การสำรวจ ดัชนีการก่อการร้ายโลก ของสถาบันเศรษฐกิจและสันติภาพระบุว่า การโจมตีโดยผู้ก่อการร้ายทั่วโลกในแต่ละปีเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า นับตั้งแต่เหตุโจมตีตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์...

รายงานการสำรวจ “ดัชนีการก่อการร้ายโลก” จัดทำโดย “สถาบันเศรษฐกิจและสันติภาพ” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯและออสเตรเลีย เผยแพร่เมื่อ 4 ธ.ค. ระบุว่า การโจมตีโดยผู้ก่อการร้ายทั่วโลกในแต่ละปีเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า ในรอบ 10 ปีหลัง นับตั้งแต่เหตุวินาศกรรมช็อกโลกในสหรัฐฯ เมื่อ 11 ก.ย.2544 หรือ 9/11 โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ อิรัก ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อินเดีย และเยเมน
รายงานระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายสูงที่สุดคือในปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่ความรุนแรงในอิรักพุ่งสูงที่สุด แต่หลังจากนั้นก็ลดลง โดยในปี 2554 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้าย 7,473 ศพ ลดลงจากปี 2550 ถึง 25% ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งที่เกิดจากระเบิดพลีชีพและอื่นๆ

รายงานระบุด้วยว่า การแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ในประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามกวาดล้างการก่อการร้าย เครือข่าย “อัล เคดา” อาจทำให้สถานการณ์ก่อการร้ายเลวร้ายยิ่งขึ้น และมาตรการดังกล่าวทำให้ดินแดนสหรัฐฯปลอดภัยจากผู้ก่อการร้ายมากขึ้นหรือไม่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ รายงานยังแนะว่าชาติมหาอำนาจควรคิดให้รอบคอบก่อนใช้กำลังทหารแทรกแซงประเทศอื่นๆที่เกิดความขัดแย้ง รวมทั้งในซีเรียและเยเมน ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายลงมากที่สุดในปี 2554.
โดย: ทีมข่าวต่างประเทศ
ไทยรัฐออนไลน์ 5 ธันวาคม 2555, 04:00 น.
ที่มา 
http://m.thairath.co.th/content/oversea/311021

No comments:

Post a Comment