Wednesday, April 27, 2016

เหยื่อรายล่าสุด !! ของขบวนการคลั่งศาสนา (ก่อการร้ายและแบ่งแยกดินแดน) !!!

กลุ่มติดอาวุธ อาบูไซยาฟ ในฟิลิปปินส์สังหารตัวประกันชาวแคนาดาคนหนึ่งด้วยการตัดคอแล้ว
หลังจากเส้นตายสำหรับจ่ายเงินค่าไถ่ที่พวกเขาเรียกร้องหมดลง...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตัวประกันชาวแคนาดาซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธ 'อาบูไซยาฟ' ในประเทศฟิลิปปินส์จับตัวไปเมื่อปลายปีก่อน
ถูกสังหารแล้ว โดยมีผู้พบศีรษะของเขาถูกนำมาทิ้งบริเวณถนนเส้นหนึ่งในเมืองทางใต้ของประเทศ เพียง 5 ชั่วโมงหลังจากกำหนดเส้นตาย
จ่ายเงินค่าไถ่ตัวประกันที่กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เรียกร้องสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์
นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่งประเทศแคนาดา ออกมาระบุตัวผู้เสียชีวิตว่าคือ นาย จอห์น ริดส์เดล อายุ 68 ปี
จากเมือง แคลการี รัฐแอลเบอร์ตา และระบุว่าชายคนนี้ถูกสังหารในการฆาตกรรมอย่างเลือดเย็นด้วยฝีมือกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟ
และทางการแคนาดาจะทำงานร่วมกับรัฐบาลฟิลิปปินส์และพันธมิตรนานาชาติเพื่อนำผู้รับผิดชอบมาลงโทษ
ทั้งนี้ กลุ่มอาบูไซยาฟแพร่คลิปวิดีโอเมื่อเดือนพ.ย. ปีก่อนเรียกค่าไถ่ตัวประกัน 4 คน ที่ถูกลักพาตัวไปจากเมืองตากอากาศ โอชียนวิว
บนเกาะ ซามาล ใกล้เกาะมินดาเนา ในช่วงเย็นวันที่ 21 ก.ย. 2015 ซึ่งประกอบด้วยชาวแคนาดา 2 คน คือนาย โรเบิร์ต ฮิล และ
นายริดส์เดล กับชาวนอร์เวย์ชื่อ คาร์ตาน เซคคิงสตัด และหญิงชาวฟิลิปปินส์อีก 1 คน โดยเรียกร้องเงินรวม 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ก่อนในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาอาบูไซยาฟจะแพร่คลิปขีดเส้นตายสำหรับจ่ายค่าไถ่ไว้ที่ 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ทางการฟิลิปปินส์ยังไม่ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นหนึ่งในตัวประกันที่ถูก อาบูไซยาฟ จับตัวไว้หรือไม่
โดยนายจุนปีการ์ ซิติน ผู้บังคับการตำรวจเมืองโฮโล เมืองเอกของจังหวัดซูลู ทางใต้ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า
พบศีรษะของชาวคอเคเซียน หรือคนผิวขาวเพศชาย อยู่ในถุงพลาสติก ซึ่งถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณถนนในเมืองโฮโล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา




สาเหตุของความรุนแรง การก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จะมีแรงผลักดันมาจาก ๓ ส่วน
ประกอบกัน นั้นก็ คือ เชื้อชาติ ศาสนา และ ดินแดน
เป้าหมายหลักของมุสลิมก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนทุกที่ทั่วโลก คือ

คนต่างศาสนาที่ศาสนานี้ เรียกว่า พวกชาวนรกกาเฟร
ในไทยก็คือ คนพุทธกับมุสลิม ไทยกับมาลายู และสยามกับปัตตานี
ในฟิลิปปินส์ ก็คือ คนคริสต์กับมุสลิม ปินอยส์กับโมโร และฟิลิปปินส์กับเกาะมินดาเนา
ในจีนก็ คอมมิวนิสต์กับมุสลิม ฮั่นกับอุยกูรย์ และจีนแผ่นดินใหญ่กับชินเกียง

จุดประสงค์ก็เพื่อ สร้างความหวาดกลัว และ ลดจำนวนคนต่างศาสนาในพื้นที่
เหมือนดังที่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ที่ศาสนานี้ จะใช้สงครามและความรุนแรงมาเผยแผ่ศาสนา
หรือใช้ข้อได้เปรียบเทียบของรัฐมาบังคับให้เปลี่ยนศาสนา

ศาสดาสอน หลักการ ญิฮาด ที่เปิดช่องว่างเอาไว้ตอบโต้ต่อผู้ต่อต้านอิสลาม
ทำให้สาวกเอาไปใช้อ้างก่อความรุนแรงโดยชอบธรรมได้
อีกอย่าง เอาศาสนามารวมกับรัฐ จึงเกิดลัทธิคลั่งศาสนาขึ้นมา
เหมือนลัทธิคลั่งชาติ ดังนั้น คนศาสนานี้จึงเป็นพวกเหยียดศาสนา นั้นเอง
คนศาสนาอื่น ทำชั่ว ไม่ได้อ้างคำสอนศาสนา ไม่เกี่ยวกับศาสนา
แต่มุสลิมหัวรุนแรง ทำชั่ว โดยอ้างคำสอนญีฮาด มันเลยเกี่ยวกับศาสนา
ถ้ามุสลิมโดนด่าจนโมโหแล้วไปยิงคนตาย ด้วยเหตุผลส่วนตัว ไม่มีใครเค้าด่าศาสนาหรอก เค้าด่าคนที่ยิง
แต่ถ้ามุสลิม คิดเอาเองว่า อิสลามโดนรังแก เลยใช้ญีฮาด ไปไล่ฆ่าคนต่างศาสนา แบบนี้ คนจะด่าศาสนาด้วย
เหมือนกลุ่มมุสลิมพวกก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน ใช้ในการปลุกระดม ก่อตั้งนักรบศาสนาขึ้น
ชื่อมันก็บอกเองอยู่แล้วว่า กองทัพมุสลิม หรือกองทัพนักรบอิสลาม
แต่ มันไม่มี กองทัพพุทธ นัรบพุทธ กองทัพคริสต์ นักรบคริสต์ ในปัจจุบันนี้แล้ว ยกเว้นอิสลาม 

ปัญหาคือ มุสลิมเองยังไม่รู้ตัวว่า ศาสนาตัวเองมีข้อผิดพลาด และ รวมความเป้นรัฐเข้าไปในศาสนา
จึงเกิดพวกมุสลิมหัวรุนแรงเหยียดศาสนาขึ้น เหมือนพวกเเหยียดเชื้อชาตินั้นเอง
ดงันั้น มุสลิมจึงไม่สามารถแยกแยะการฆ่าที่เกิดจากศาสนา การฆ่าที่เกิดจากเชื้อชาติ
หรือการฆ่าที่เป้นเรื่องส่วนตัวได้เหมือนคนศาสนาอื่น ที่ไม่มีคำสอนให้ตอบโต้ และแยกรัฐออกจากศาสนา
และถ้าพระทำผิดพระวินัย ก็มีบทลงโทษชัดเจน
ถ้าพระไปฆ่าคน ก็ขาดจากความเป้นพระ
ในทางตรงข้าม มุสลิมไปไล่ฆ่าเค้า โดยใช้คำสอนของอิสลามมาปลุกระดม
ฆ่าคนก็ไม่ขาดจากความเป้นมุสลิม ไม่ตกศาสนา ไม่โดนลงโทษ
มีแต่จะได้รางวัล ที่ฆ่าพวกกาเฟรได้ ตายไปได้นางฟ้าเป้นเมียอีก
เนียละ ปัญหาของมุสลิม ที่แยกไม่ออกระหว่าง
หน้าที่ของรัฐ(ชาติ) กับ หน้าที่ของศาสนา
ศาสนาต้องมาคานอำนาจของรัฐ
เพื่อให้เกิดความสมดุล สงบสุข ไม่มีความรุนแรง
ไม่ใช่เอาศาสนาไปรวมกับรัฐ แบบอิสลาม

และการก่อความวุ่นวาย(ฟิตนะฮฺ)นั้นร้ายแรงยิ่งกว่าการประหัตประหารเสียอีก (อัลบะเกาะเราะฮฺ 191)และจงขับไล่พวกเขาออกจากที่ที่พวกเขาเคยขับไล่พวกเจ้าออกและจงประหัต ประหารพวกเขา ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าพบพวกเขาเหล่านั้น ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าพบเขา (อัตเตาบะฮฺ 5) ครั้นเมื่อบรรดาเดือนที่ต้องห้ามเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็จงทำสงครามกับผู้ตั้งภาคี (มุชริกีน)สำหรับบรรดาผู้ที่ถูกโจมตีนั้น ได้รับอนุญาตให้ต่อสู้ได้ เพราะพวกเขาถูกข่มเหง  (อัลฮัจย 39 )(ดูตัวอย่างในอัลบะเกาะเราะฮฺ 190,244 และ อัตเตาบะฮฺ 20,41,88)

ซึ่งในอัลกุรอานจะใช้คำว่า قِتاَلْ ซึ่งหมายถึงการสู้รบ และคำว่า    جِهاَد باِ لنَّفْسِซึ่งหมายถึงการญิฮาดด้วยชีวิตการทำสงครามนั้นเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งในหลายรูปแบบของการญิฮาด ซึ่งมีวัตถุประสงค์อยู่ที่
การดำรงไว้ซึ่งศาสนาแห่งอัลลอฮ์ญิฮาดในสงครามครูเสด (พ.ศ. 1639 - 1827)
และสงครามตะบูก (พ.ศ. 1173)
สงครามคอนดัก (พ.ศ. 1170)
สงครามบนูกูรอยเซาะห์ (พ.ศ. 1170)
การทำสนธิสัญญาอัล อุดัยบิยะห์ (พ.ศ. 1171)
ญิฮาดในสมัยนบีมุฮัมมัด มีปรากฏในอัลกุรอ่าน 6 ครั้ง คือ
สงครามบะดัร (พ.ศ. 1167)
สงครามอุฮุด (พ.ศ. 1168)

ญิฮาดในประวัติศาสตร์ดังนั้น โองการแรก (ของคัมภีร์อัลกุรอาน) ที่ถูกประทานลงมาให้เริ่มทำการญิฮาด เพื่อต่อสู้ศัตรูด้วยอาวุธเพื่อปกป้องและต่อต้านการรุกรานของศัตรู และพิทักษ์รักษาชีวิตและศาสนาของอัลลอฮฺเมื่อบรรดาศัตรูได้รวมกำลังกันติดตามเพื่อที่จะดับรัศมีของอิสลาม จึงเป็นเหตุให้บรรดามุสลิมต้องจับอาวุธขึ้นต่อสู้ณ นครมะดีนะฮฺ (เมืองหลวงใหม่ของอิสลาม) ในปี ฮ.ศ. 2*

อัลลอฮฺได้บัญญัติให้มีการต่อสู้เป็นการตอบโต้การกดขี่ข่มเหงด้วยกำลังอาวุธเมื่อไม่มีทางแก้ไขอย่างอื่นญิฮาดมี 4 ประเภท และประเภทสุดท้าย คือการ ญิฮาดโดยอาวุธ


ตรรกะของคนศาสนานี้ มี ๓ ข้อ คือ
๑.ศาสนาของเราและพวกเรา ถูกต้องที่สุด สมบูรณ์ที่สุด
ศาสนาอื่นหรือพวกคนอื่น เป็นพวกคนบาป คนสกปรก เป็นชาวนรก
๒.ถ้าเจอข้อผิดพลาดในคำสอนของศาสนาเราหรือพวกเรากระทำความผิด ให้กลับไปอ่านข้อที่ ๑.และ ๒.
๓.ความผิดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับศาสนาของเราหรือเกี่ยวกับพวกเรา ให้โทษว่าเราโดนกลั่นแกล้ง
โดนพวกยิว พวกอเมริกา พวกชีอะห์ พวกสยาม พวกกาเฟร ใส่ร้าย แล้วก็อนุญาตให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้ได้เลย
ตามหลักคำสอนของศาสดาเรื่อง จีฮัด

ดังนั้น ผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ บุกจับคุมตัวมาได้นั้น ส่วนใหญ่ จะมีประวัติคล้ายๆกันคือ
๑.เป็นครูสอนศาสนาอิสลามหรืออดีตครูสอนศาสนา ในพื้นที่เหตุความรุนแรง
๒.เคยไปเรียนศาสนามาจากประเทศอิสลามต่างๆ เช่น ซาอุ ปากี อินโดนิเชีย หรือ มาเล
๓.มีชาติพันธุ์เป็นคนท้องถิ่นเดิม

ปล.ถ้าจะบอกว่าทหารสร้างสถานการณ์ แต่ไอ้พวกที่จับๆมา ทำไมมีแต่คนศาสนานี้ทั้งนั้น
แล้วประเทศอื่นๆที่มีพวกมุสลิมก่อการร้ายหรือแบ่งแยกดินแดนเหมือนไทย
เช่น ฟิลิปปินส์ อินเดีย พม่า จีน อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน เคนย่า มาลี ไนจีเรีย ๆลๆ พวกนั้นก็สร้างสถานการณ์ด้วยหรือ ?
ตรรกะแบบนี้ ถ้ามีโรคระบาด ก็โทษว่าหมอสร้างสถานการณ์ อยากขายยา อยากได้เงินรักษาคนป่วย อยากขายวัคซีน แบบนั้นหรือ ?

ปล.๒ วิธีแก้ปัญาหามุสลิมแบ่งแยกดินแดนหรือก่อการร้าย มี ๒ แนวทาง คือ

๑.ตัดไฟแต่ต้นลม และ ปราบปรามให้เด็ดขาด แบบพม่า หรือศรีลังกา หรือจีน ซึ่งทั้ง ๓ ประเทศใช้นโยบายนี้ได้เพราะ ทั้ง ๓ ประเทศ
เคยถูกรุกรานโดยมุสลิมในยุคอินเดียโดนบุก หรือพวกคริสต์ในยุคล่าอาณานิคม จึงเกิดการเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเอง และทั้ง ๓ ประเทศ
ไม่เน้นการค้าขายกับพวกประเทศมุสลิมอยู่แล้ว ยกเว้นจีนที่ปราบอุยกูร์เด็ดขาดเพราะจีนเป็นประเทศมหาอำนาจ

๒.ใช้เงินเข้าล่อ พัฒนาพื้นที่ให้เจริญ ให้มุสลิมบางส่วนกลับมาให้ความร่วมมือกับรัฐ แบบไทย หรือฟิลิปปินส์ หรือจีน ซึ่งทั้ง ๓ ประเทศ
ใช้นโยบายนี้เพราะเป้นประเทศที่ต้องยังค้าขายเกียวข้องกับกลุ่มประเทศมุสลิมอยุ่ และดำเนินนโยบายความเป็นกลางทางศาสนานั้นเอง

ที่มา
http://pantip.com/topic/35085777






No comments:

Post a Comment